Mar 4, 2017

JAPAN MAR2017 // Hello Nagoya

ประมาณเที่ยงคืน ขึ้นเครื่องอีกรอบ จุดหมายคือ Nagoya
พยายามจะหลับอยู่หลายรอบมากแต่ไม่สามารถจริงๆ หลับๆตื่นๆไปตลอดทาง



เช้าประมาณ หกโมง แอร์ปลุกมากินมื้อเช้า กินไม่ลงเลย กินได้แค่ผลไม้




8 โมงกว่าๆก็ Landing ถึง Nagoya โดยสวัสดิภาพ รับกระเป๋าแล้วก็ผ่าน ตม.ออกมา
ซื้อตั๋วรถ u-sky แล้วก็มุ่งหน้าเข้าเมืองเลย



ค่าตั๋วรถไฟ 1230 Yen (Fare 870 yen, Seat 360 yen)



มีที่หนีบตัวตรงนี้ตัว เอาไว้เวลาเจ้าหน้าที่มาตรวจ ก็ก้มมาดู เราก็หลับยาว

ที่พักที่ Nagoya 1 คืนของเราคือ Toyoko Inn Nagoya-eki Shinkansen-guchi
ราคาสมาชิก ตกคืนละ 10,xxx yen ห้อง Double
เราไปถึงโรงแรมก็ 10 โมงกว่าๆละ ยัง Check-in ไม่ได้ เลยฝากกระเป๋าแล้วไปหาไรกินดีกว่า



ร้านที่ผู้ชายปักมาคือร้าน Ichibiki เป็นร้านข้าวหน้าปลาไหลย่าง
(มา Nagoya ก็ต้องกินปลาไหลเน๊อะ)
ร้านเปิด 11:30 เราเดินจากโรงแรมไปถึงร้านตอน 11 โมง คิวยาวแล้วจ้า

วิธีเดินไปทางโรงแรม




เราไปยืนต่อคิว แล้วก็มีผู้ชายอีกคนนึงมาต่อคิวเรา พนักงานที่ร้านออกมาเอาบัตรให้
แล้วก็เอาป้ายมาตั้งหลังจากผู้ชายข้างหลังเรา
ตอนแรกนึกว่าเป็นป้ายที่บอกว่าอันนี้หางแถวนะ ด้วยความอยากรู้ ผช ก็ไปยืนๆดู
เอา Google Translate ไปลองจ่อๆ แปลดู ปรากฏว่า น่าจะเป็นข้อความประมาณว่า หมดแล้วไรงี้
นี่แบบ เกือบมาไม่ทันกินแล้วนะเนี่ย โชคดีสุด



ญช สองคนข้างหน้าก็ไฮเปอร์มาก ขยับตลอดเวลา หรือหนาวก็ไม่รู้นะ
มีการให้ ผญ เดินไปซื้อข้าวปั้นกับน้ำมากินระหว่างรอคิว

พอ 11:30 ร้านเปิด เริ่มย่างปลาไหล เท่านั้นแหละ กลิ่นมาเลยจ้า



ปล่องควันข้างบนร้าน ลมพัดมาที อือฮือออ หอมมวากกกกกก
ยืนรออยู่ประมาณ 2 ชั่วโมง (โคตรนาน) ในที่สุดก็ได้เข้าร้านซะที



ตอนใกล้ๆถึงคิว มายืนตรงหน้าร้าน เค้ามีที่ให้ดูคนย่างปลาไหลด้วย
แล้วก็มีคนย่างอยู่คนเดียว ค่อยๆบรรจงย่าง ก็เลยนาน

เข้าร้านมาพนักงานแจ้งว่า ขนาด Extra Large หมดแล้วนะ เราก็เออ Extra ก็ได้
จริงๆที่ Nagoya เค้าดังเรื่องข้าวหน้าปลาไหลสไตล์ Hitsumabushi นะ
ที่เป็นแบบ แบ่งสี่แล้วกินทีละแบบ
จริงๆร้านนี้ก็มี แต่เราอยากกินแบบธรรมดา



มาแล้ววว ปลาไหลร้านนี้ดีสุด กรอบนอกนุ่มใน เห็นแห้งๆงี้ กัดเข้าไปน้ำไหลออกมาเลย



ซุปในชุด มีตับปลาไหลมาให้ด้วย



กินเสร็จแล้วถึงจะได้มีโอกาสถ่ายรูปหน้าร้าน
ร้านนี้อร่อยมากจริงๆ ให้ยืนรอ 2 ชั่วโมงนี่ก็ว่าคุ้ม ใครผ่านไปผ่านมามีโอกาสขอให้ลอง



หลังจากกินอิ่มแล้ว จะไปปราสาท Nagoya ต่อ ผช บอก เดินกันเถอะ
อากาศหนาวๆงี้น่าจะโอเคเน๊อะ เดินก็เดินฟร่ะ







เก็บภาพหมาแมวระหว่างทางไปตามเรื่องตามราว



อยากออกกำลังกายนักใช่มั๊ย เมื่อคืนก็นอนไม่ค่อยพอ เริ่มเพลีย



ถึงแล้วจ้าาาาา
แต่ช้าก่อน ที่มาปราสาท Nagoya จริงๆเนี่ย ไม่ได้จะมาดูปราสาทหรอกนะ
แต่มันมีงาน Star wars ที่นี่ตะหาก กรี๊ดๆๆๆๆๆ



ซื้อตั๋วแบบไม่ลังเล ตั๋วนี่เข้าชมปราสาทได้ด้วย



ยังไม่ทันไปถึงไหน ก็มาถูกดักด้วยร้านขายของที่ระลึกซะก่อน
ค่าเสียหายอย่าให้เซด ไม่รับบัตรเครดิตอีกตะหาก วันแรกก็กระเป๋าเบาซะแล้ว



เข้าไปชมงาน Star wars ในปราสาทกัน แต่ว่าเค้าห้ามถ่ายรูป อดเลย
ในงานเอาของที่ใช้ถ่ายทำ Star wars มาโชว์ แล้วก็พวกคอสตูม
ได้ดูแล้วรู้สึกอิ่มใจตามประสาติ่ง เสียดายมันเป็นภาษาญี่ปุ่นซะส่วนใหญ่ อ่านไม่ออก งือออ



ดูงานเสร็จ ก็ออกจากปราสาทมาเลย แหะๆ อารมณ์อยากอาบน้ำโคตรๆ
คืนตั้งแต่เดินทางขึ้นเครื่องมา ก็ข้ามวันมาแล้ว น้ำเนิ้มยังไม่ได้อาบ แถมเดินมาโคตรเมื่อย
เลยตัดสินใจขึ้น Taxi แม่มเลย (วันแรกก็งี้ เปย์)
แต่เซนเซนเคยเล่าให้ฟังว่าค่า Taxi ที่ Nagoya ถูกกว่าเมืองอื่นไง start ถูกกว่า
เราก็ว่างั้นนะ นั่งนานเหมือนกันจากปราสาทกลับมาโรงแรม ก็ประมาณ 1,500 เยน
(เคยนั่งที่ซัปโปโระ ระยะสั้นจิ๊ดเดียวพันเยน)

เข้าห้อง อาบน้ำ เปลี่ยนชุด ออกมาซัดเครื่องดื่มร้อนๆ



เครื่องดื่ม Starbucks ประจำเทศกาลซากุระ
จากนั้นก็ไปหาอะไรกินกัน เดินวนๆอยู่แล้วโรงแรมนั่นแหละ เพราะก็เป็นแหล่งของกิน





ราเมงเส้นหญ่ายยยย

จากนั้นก็ Shopping ต่อเล็กน้อย แวะซื้อขนมซุปเปอร์มากิน
อ้อ ไป Nagoya Station เพื่อไปออกบัตร JR Central แล้วก็จองรถไฟที่เราจะไปนู้นนี้กัน
จัดการธุระทั้งหมดเรียบร้อย กลับห้องมาพักผ่อน นอนกินหนม



เชิ๊บๆๆ พรุ่งนี้เราจะไป Gero กัน เย้ๆ

No comments:

Post a Comment