May 25, 2015

JAPAN 2015 // Day 3 - Supercold Otaru

#09.02.2015

ตื่นเช้า อากาศสดชื่น วันนี้เราจะไป Otaru กัน
เดินออกมาจากโรงแรมแล้วคุณผู้ชายดันลืมของ กลับเข้าไปเอาใหม่
พอจะออกมาอีกรอบ คุณลุงที่ขับ Shuttle bus โรงแรมเรียกให้ขึ้นรถ บอกจะออกแล้ว
อ่ะ ขึ้นก็ได้ ฮ่าๆๆๆๆ



นั่งรถไฟชมวิวแป๊บเดียวก็ถึงแล้ว (ประมาณ 30-40 นาที)
เป็นวิวทะเลที่... อืม... เราว่าทะเลบ้านเราสวยสุดอ่ะนะ
แต่อาจจะเปรียบเทียบกันไม่ค่อยได้เน๊อะ
ก็เอาเป็นว่าสวย แต่ไม่ได้ตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่นัก เลยหลับๆตื่นๆเป็นระยะ



โอลาฟนี่ฮิตมากนะ ไปมุมไหนก็เจอคนปั้นไว้

พอมาถึง Otaru Station ส่วนใหญ่ก็จะพุ่งไปหาแผนที่ เราก็เช่นกัน
แต่หยิบมาแล้วดูไม่รู้เรื่อง ฮือๆๆๆ คุณผู้ชายก็พุ่งออกจากสถานีไปด้วยความมั่นใจมาก
จุดหมายของฮีคือ Sushi Dori ถ้ามาโอตารุแล้วไม่กินซูชิ ถือว่ามาไม่ถึงนะ

แล้วคือ ก่อนจะมานี่ไม่ได้เช็คสภาพอากาศล่าสุด
คิดว่าไม่ว่าจะดูยังไง หนาวก็คือหนาวอ่ะ สำหรับเรามันหนาวมากเหมือนๆกันหมด
ปรากฏว่า หิมะตกหนักมาก (มากสำหรับเรานะ)
คือแบบ ตกตลอดเวลา สั่นกันหงั่กๆๆๆๆๆ แต่ก็แอบดีใจนะ
ก็ไหนๆก็มาแล้ว เจอหิมะหยอมแหยมคงไม่ใช่ มันต้องสะใจแบบนี้ วะฮะฮ่าๆๆ

ร้านที่ตั้งใจจะมากินสุดๆคือ Ise Zushi แต่ว่าให้พนักงานโรงแรมโทรจองให้
ปรากฏว่าเต็มหมด เต็มทั้งกลางวันทั้งเย็น อดไป T___T
คุณผู้ชายก็เสนอว่าจะไปกิน Masazushi แทน เตรียมแผนที่มาเรียบร้อย
ปรากฏว่ามีคิว ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็โอเค รอแป๊บเดียว
ออกมาจากร้าน ถามคุณผู้ชายว่าระหว่างรอเอาไง คุณผู้ชายบอก มีอีกร้านมานำเสนอ
หึ๊.... นี่คือ จะกินซูชิฆ่าเวลาระหว่างรอกินซูชิอีกร้าน!!!???
สรุปก็คือ ใช่ 555+

ร้านนี้ Yoruyama



เข้าไปมีนั่งอยู่แค่โต๊ะเดียว เมนูมีภาษาอังกฤษ สบายใจหายห่วง



สั่งมาเหมือนกันคนละซุป พร้อมซุปปูขน ซึ่งปูมาแบบเน้นๆมากกกก ประทับใจ
สรุปว่าอร่อยมาก ของสดและดี ซูชิข้าวอุ่นๆ กินแล้วอุ่นท้องดีมาก

ออกมาจากร้าน โอย หนาววววว เจอที่วัดอุณหภูมิ บ้าไปแล้ว -7องศา



หนาวแค่ไหนก็ทนนะ เดินข้ามถนนไป Masazushi ได้คิวพอดี
รอโต๊ะแป๊บนึง พนักงานก็เชิญเข้าไปนั่งพร้อมทั้งเอาเมนูมาให้
สรุปสั่งเป็น set Chef Recommend มาคนละ 1 set
(Set ละ 10,000yen เลยนะ ไม่ใช่ถูกๆ เลียจานได้นี่จะทำเลย)




นั่ง counter ดูเชฟทำ ตื่นเต้นว่าจะได้กินอะไรบ้าง
Chef พูดภาษาอังกฤษได้นิดหน่อย ส่วนเราฟังญี่ปุ่นออกนิดหน่อย(มากๆ)
ยังพอสื่อสารกันเข้าใจ เวลาเค้าอธิบายว่ากินยังไง



อสุจิปลา ตื่นตาตื่นใจมากกกกกกกกกกกก กินดูมันก็มันๆเหมือนไขมัน
(มาเจอที่หลังว่า Super ใน Tokyo ก็มีขาย เชอะ)



Ika Sashimi กินแบบโซบะเย็น อร่อยมาก



ทูน่าย่าง นี่คือที่สุดเลยจิงๆ หน้าตาธรรมดา แต่โคตรอร่อยยยยยยยยย
ปกติเราชอบกินปลาดิบนะ ย่างๆนี่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
แต่เจอเมนูนี้เข้าไป โห อึ้งๆไปเลย(ย้ง) อร่อยสวนทางหน้าตาสุดๆ



ปิดท้ายด้วย Set นี้ จุกมาก - -"



ที่อุปกรณ์มาให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย Chef เป็นคนถ่ายให้ น่ารักมุ้งมิ้ง

หลังจากฟาดซูชิไปสองร้านรวด ก็สมควรแก่เวลาแล้วล่ะ ที่เราจะต้องเดินย่อยกันมาก
ถึงจะหนาว(มากกกก)ขนาดนี้ ก็ไม่หยั่นนะ





เดินไปเรื่อยๆ แวะดูตรงที่เค้าปั้นๆจะจุดเทียน แล้วก็เดินต่อไป
จุดหมายคือ Otaru Canal ซึ่ง...หลงฮะ หลงแบบโง่ๆเลย
เราเดินบนถนนอ่ะ แต่คลองคือมันอยู่ข้างล่าง
เห็นแล้วล่ะว่ามีคนออๆกัน แต่ไม่คิดอะไร ก็ชวนคุณผู้ชายเดินต่อไปเรื่อยๆๆๆๆๆ
จนไปสุดตรงที่มีเรือยอร์ชจอด เริ่มคิดได้ว่ามันคงไม่ใช่ละ
คือเดินไปไกลมาก ยิ่งเดินก็ยิ่งไม่เจอคน หิมะก็หนาขึ้นเรื่อยๆๆๆๆๆ



ถึงจุดนี้คิดได้ว่า เราควรเดินกลับกันมั๊ย



ด้วยความที่อากาศหนาว ก็เลยอารมณ์ดีกัน เดินหลงก็ไม่หงุดหงิด
ก็เดินเล่นหิมะไปเรื่อยๆไม่เบื่อเลย



ในที่สุดเราก็เดินกลับมาที่คลองได้สำเร็จ 555+



ลงไปเดินถ่ายรูปที่เค้าจะปั้นๆจุดเทียน คือวันนี้เป็นวันแรกของงาน Light up ของที่นี่
เด็กๆยังปั้นๆโปะๆกันไม่เสร็จเลย แล้วคนก็เยอะมาก (ที่สุดคือทัวร์จีน)
เราก็เลยไม่รอจุดเทียนล่ะ กลับซับโปโรกันดีกว่า



ตรงนี้น่าจะเป็นถนนช็อปปิ้งของที่นี่ แต่ก็ไม่ค่อยมีอะไรมาก
ขากลับแวะซื้อ Le TAO ที่สถานี เพราะไม่ได้แวะร้านในเมือง

นั่งรถไฟกลับไป Sapporo Station จุดหมายต่อไปคือ Beer Museum 
ตอนแรกว่าจะนั่งบัสไป แต่กลัวเลย สุดท้ายเลยนั่ง Taxi ไปแทน แอบแพงนะ
ไปถึงก็บอกเลขจอง (เราโทรมาจองไว้ตั้งแต่เมื่อวาน มีพนักงานพูดภาษาอังกฤษได้)





ที่นี่ดีนะ มีถุงพลาสติกให้ใส่กระเป๋า ป้องกันกลิ่นติดด้วย
เห็นน้องบอกว่า ร้านอื่นตอนกินเสร็จเค้าจะมีสเปรย์ดับกลิ่นฉีดให้ แต่ที่นี่ไม่มีแหะ





ซัดกันจนจุก ตอนเดินออกมาแวะร้านขายของที่ระลึก
คุณผู้ชายเค้ากรี๊ดมาก มาสคอตที่นี่เป็นน้องแกะใส่หมวกกระทะปิ้ง
ซื้อมาหลายแบบมาก แถมซื้อหมวกมาอีก!!!! นี่คือทุ่มเทมากๆ



แปลงร่างเป็นแกะ อิอิ

ขากลับพอรู้ทางละ เลยนั่ง Bus กลับ ไปลง Sapporo Station
แล้วก็นั่งรถไฟต่อกลับไปโรงแรม ตอนกลับยังไม่วายนะ แวะ Family Mart



สปาเก็ตตี้คาโบนาล่าของคุณผู้ชาย คืออเมซิ่งมาก เอาไปเวฟแล้วไข่แดงยังดิบได้
หยิบมาคลุกๆๆๆ โห โคตรอร่อย อยากให้ที่ไทยมีแบบนี้ขายมั่ง



จากนั้นก็ซัด Cheese Cake กันก่อนนะ อิ่มท้อง หลับสบายแฮ