Jun 30, 2013

JAPAN 2013 - 4th day // Kyoto then Kobe



















ตื่นสายอีกตามเคย วันนี้จะไปเที่ยวเกียวโตก่อน 
ถึงแม้ว่าพรุ่งนี้เราจะไปนอนเกียวโตก็เหอะ เพราะอยากจะไปเดินชมซากุระริมคลอง
ตาม review นี้เลย
http://topicstock.pantip.com/blueplanet/topicstock/2010/02/E8916216/E8916216.html

แล้วก็พบว่าสวยมากกกกกกกกกกกกกกกก
แต่!!! โคตรหนาว!!!!! ฮ่าๆๆๆๆ
คือดูพยากรณ์อากาศมาแล้ว แต่ก็คิดว่าที่ใส่มาก็น่าจะเอาอยู่นะ
ปรากฏว่าเอาไม่อยู่คับทั่น เดินสั่นงั่กๆๆกัน ฝนก็ตกปรอยๆตอนแรก (ตกกระจายตอนหลัง)
เดินไปนี่ต้องกดไปเอาชาร้อนมากอด มายัดกระเป๋าเสื้อกัน ฮ่าๆๆ

เดินจนหมดระยะแล้วก็ไปนั่งกินมื้อเช้ากันหน้า Lawson
บรรยากาศดีสุดๆอ่ะ
เสร็จแล้วก็กลับไปเดินต่อตามแนวต้นหลิว แล้วก็ไปกินข้าวกลางวันกันที่ร้านโซบะหลายร้อยปี
( http://2g.pantip.com/cafe/blueplanet/topic/E10804211/E10804211.html )

จากนั้นตามแพลนคือว่าจะไป Kobe ขึ้น Mt.Rokko กัน
แต่ว่าเดินผ่านไปสะดุดตากับป้าย Manga Museum เข้า
คุณผู้ชายอยากเข้ามากกก ก็เลยตกลงให้เลือกก่อนว่า
ถ้าจะเข้า Museum นี่ เราจะไปขึ้น Mt.Rokko ไม่ทันนะ
ซึ่งแน่นอน คุณผู้ชายเลือก Museum ค่ะ!!!

แต่เอาจริงๆ เข้าไปแล้วไม่ผิดหวังเลย ใครไปเที่ยวโตเกียวขอแนะนำว่าให้ลองเข้าไปดูนะ
สำหรับผู้รักการ์ตูน ต้องชอบแน่นอน มีประวัติความเป็นมาขอการ์ตูนญี่ปุ่นด้วย เพลินมาก
แต่เค้าห้ามถ่ายรูปนะ จะมีบอกไว้เลยว่าส่วนไหนถ่ายได้บ้าง ซึ่งก็ไม่ค่อยมีหรอก
( http://www.kyotomm.jp/english/ )

หลังจากออกจาก museum เราก็ตรงไป Kobe เลย
ไปถ่ายรูปกับ Landmark ทั้งหลายแหล่
แต่จุดประสงค์จริงๆของเราคือการมากินอาหารชื่อดังของที่นี่ นั่นก็คือ
Steak Kobe  นั่นเองงงงงงงงงงงงงงงงงง ซึ่งเราเลือกไปร้าน Steak Land
เนื้อเค้าเมพจริงนะ ละลายในปากเลยล่ะ
แต่คุณผู้ชายบอกว่า มันละลายเกินไป จนรู้สึกเหมือนกินก้อนไขมันมากกว่า(ฮาา)

ออกมาจากร้าน เฮือกเลย อากาศอยู่ที่ 9 องศา (กรี๊ดดดดด)
ถึงกะขาแข็งเดินไม่ออกเลย (ก็ชั้นใส่ legging มาตัวเดียวเอง)
รีบกลับมาโรงแรม แต่ก็ไม่วายแวะซุปเปอร์ก่อน ทั้งๆที่ก็อิ่มสุดๆ ตะกละอ่ะคนเรา ฮ่าๆๆ





Jun 25, 2013

JAPAN 2013 - 3rd day // (not) get around OSAKA














อากาศดีจนตื่นยากมากกกกกก แพลนที่วางไว้วันนี้เยอะแยะมากมาย
ไปกิน sushi ที่ fish market Osaka, เดินชมซากุระที่ Kema Sakuranomiya Park
เดินไปต่อที่ Osaka Castle แล้วก็ไปเที่ยววัดอะไรใกล้ๆแถวนั้น ขึ้นตึกชมวิว ก็ว่าไป

ปรากฏว่าจริงๆทำได้ถึงครึ่งก็เก่งแล้ว (- -)

เช้า เดินหนาวๆออกไปขึ้นรถไฟ ไปกิน sushi ตามลายแทงคุณ skybox
( http://pantip.com/topic/30317762 )
ขอเสียของการไปกินตาม review คือ คนไทยจะเยอะมาก = คิวยาวมาก
ขนาดไปเช้าแล้วนะ (เช้าของเรา ไม่เท่ากับเช้าคนอื่นนะ ฮ่าๆๆๆ)
ก็ยังมีคิวประมาณนี้ แต่ก็โชคดีกว่าเราไปกันแค่ 2 คน
counter bar ว่างก็เสียบเลย หุหุ

กินเสร็จก็นั่งรถไฟไปลง Kema Sakuranomiya Park
ที่นี่ ซากุระสวยจนแทบหยุดหายใจเลย
เสียดายว่าฝนตกปรอยๆตลอด กลีบดอกก็ร่วงเอาๆ
แล้วก็มีใบเขียวๆแทงกิ่งออกมาแล้ว ก็ไม่ถึงกับชมพูไปซะหมด มีเขีียวแซมๆ
คิดถึงว่าถ้ามาตรงเวลาเป๊ะ มีแต่สีชมพูไปทั่ว มันจะสวยขนาดไหนนะ
(แค่นี้ก็ว่าสวยมากแล้วนะ)

สวนยาวมากกกกก กว่าจะเดินเสร็จ ดูจาก google map เหมือนจะใกล้ Osaka Castle
แต่เอาจริงๆแล้ว ขาลากเลยค่ะคุ๊ณณณณณ

ไปถึง Osaka Castle ก็เลยเอาแต่กินๆๆๆๆ Softcream, Tako-yaki, Crepe ฟาดให้เรียบ
กระดก Calpis อึกๆๆๆๆ เอาให้หายอยาก (กินแทนน้ำเปล่าเลย)
นั่งพักแช่ๆอยู่แป๊บนึง ก็ขึ้นไปเดินดูข้างใน แล้วก็เดินออกมา (ไกลมวากกกกกกกกกกกกกก)
ฝนก็ตกหนักขึ้น ฮืออออออ ฟ้าฝนไม่เป็นใจเล๊ย

ตามแพลนวันนี้มีขึ้น HEP FIVE ด้วย ถึงอากาศจะขมุกขมัวแค่ไหน ก็ไม่เปลี่ยนแผน
(เพราะต้องไปกิน Ippudo Ramen แถวๆนั้น)

จบจากมื้อเย็นก็กลับเลย เหนื่อยมาก ไม่ไหวจะเดิน ไปกวาดยาแก้ปวดมาจากร้านขายยาด้วย
แวะซุปเปอร์ข้างๆก่อน กวาดมาอีกเหมือนกัน ปลาดิบลดราคา!!!
โอ๊ย นี่มันสวรรค์ชั้น 7 ของชั้นกะคุณผู้ชายจริงๆ ฮ่าๆๆๆ

นอนหลับฝันดีที่อากาศเย็นๆอีกเช่นเคย



Jun 24, 2013

JAPAN 2013 - 2nd day // I'm in OSAKA!!!







 



ตื่นเช้ามาหาของกินในมาเก๊า และพบว่าไม่มีร้านไหนเปิดเลย เราตื่นเช้าไป!!
เดินงงๆไปเรื่อยๆ แล้วก็จบที่ขนมปัง ตามสไตล์คนโปรตุเกส (ใช่มะ?)

แถมยังโก๊ะได้อีก ตั้งใจรอรถฟรีไป Venetian แล้วนั่งรถฟรีไป Airport อีกต่อ
แต่เพิ่งนึกออกว่ารถฟรีมันเริ่ม 10.30am แต่ไฟลท์เรามัน 11.00am บ้าจริง!
ว่าแล้วก็โบก taxi ไป airport ซะเลย ลุงใจดีไม่คิดค่ากระเป๋าด้วยนะ แอบงง

ใครว่าเกาะมาเก๊าเล็กๆ ไม่เห็นจะจริงเลย นั่ง taxi นี่ meter ขึ้นพั่บๆๆๆ

...

แล้วในที่สุดเราก็มาถึงญี่ปุ่นนนน ผ่าน ตม. ฉลุย (คนเยอะเหมือนกันนะ)
ก่อนอื่นต้องไปเอา pocket wifi ที่สั่งไว้ก่อน ซึ่งใช้คุ้มมาก ขอบอก
(เราใช้บริการเจ้านี้ http://www.wifi-rental.jp)

จากนั้นชีวิตติด online ก็เริ่มขึ้น check-in เสร็จ whatsapp เด้ง เหวิ่งๆๆๆ ฮ่าๆ

จัดการซื้อ pass ทั้งหลายแหล่ แล้วก็มุ่งหน้าสู่ที่พัก
3 คืนแรกเราจะนอนที่ weekly green in namba ที่พักติด 24hrs supermarket ด้วยอ่ะ เริ่ดด
(คุณผู้ชายบอกว่า ถ้ามาเที่ยวอีกที มานอนนี่อีกก็ดีนะ)

ไปเดิน dotonbori เดินไปจองคิวร้านปู (Kani Doraku) แล้วเดินกิน Tako-yaki รอ กินๆๆๆๆๆ
ขอบอกว่าซัดปูไปเยอะมาก มื้อแรกก็จัดเต็มเลย

เดินย่อยแถวๆนั้น กลับที่พักแวะซุปเปอร์ซื้อน้ำหวานและสตรอเบอรี่

นอนหลับฝันดี อากาศดีๆที่สิบกว่าองศาปลายๆ








Jun 23, 2013

JAPAN 2013 - First day at Macau

4 April 2013











เริ่มต้น Trip ที่ Macau เนื่องจากซื้อตั๋วราคาถูกของ Air Macau
ไปกลับจากคนละเมือง Bangkok-Osaka , Tokyo-Bangkok ในราคา 14k บาท
(หลังจากกลับมาแล้วเค้าออกโปรมาถูกกว่านี้อี๊ก ไปกลับเมืองเดียวกัน 10k เอง)

สิ่งที่ต้องแลกกับตั๋วถูกคือ เวลา
เวลา transit นานมาก เป็นวัน ตอนแรกก็ว่าจะนอนสนามบินหรอกนะ (หอบถุงนอนมาด้วย)
แต่ว่าคุณผู้ชายบอกว่านอนโรงแรมเถอะ เถอะ เถอะ
สรุปว่านอนโรงแรม Ole London Hotel ในราคาคืนละ 2300 บาท
ก็ดี ถือโอกาสเที่ยวมาเก๊าซะเลย เพราะก็ยังไม่เคยมา

แต่เสียอยู่ว่าช่วงนี้มาเก๊าฝนตกทั้งวัน อากาศแย่มาก
ขนาดตอนเครื่องบินลงยังมีวูบวาบพอให้หวาดเสียวบ้าง

จากสนามบิน นั่งรถฟรีไป Venetian แล้วก็เดินโต๋เต๋ในนั้นแป๊บนึง
แวะซื้อทาร์ตไข่อะไรก็ว่าไป แอบเซอร์ไพรส์คนขายบอกราคาเป็นภาษาไทย งงดิ
ถึงกะจ่ายตังค์ไม่ถูกเลย ฮ่าๆๆๆ เค้าบอกว่า คนไทยรึป่าว เค้าพูดไทยได้นิดหน่อย
น่ารักมากๆ ตอนจ่ายตังค์เสร็จก็หันมาโบกมือบ๊ายบายให้เราด้วย
เสร็จแล้วก็นั่งรถฟรีไปลงท่าเรือใกล้ๆโรงแรม

ที่ทำได้หลังจาก check-in โรงแรมแล้วก็คือ เดินไปหาอะไรกินที่ Senado Square
แล้วก็เดินเล่นแถวๆนั้นแหละ หาซื้อแชมพู ซึ่งปรากฏว่าหยิบผิดเป็นครีมนวดมา (โง่!!)

มีแพลนจะไปเดินดูนั่นนี่ตาม Casino ก็ล้มเลิกไป เพราะฝนมันตกเยอะไปนะ
หลับถึงโรงแรมแต่เนิ่นๆเลย ยังแวะซื้อของต้มๆมากินด้วย
ต้มรวมทุกอย่าง ราดน้ำเผ็ด เหมือนจะถูกใจคุณผู้ชายที่ชอบกินของต้มอ่ะนะ

เสร็จกิจทุกอย่างแล้ว เข้านอนแต่หัวค่ำ ฝันถึงญี่ปุ่นที่เราจะไปเหยียบพรุ่งนี้กันเถอะ



Sperry Top-sider

Mr.N ซื้อรองเท้าใหม่(อีกละ)
รอบนี้ออกแนววินเทจๆ ซึ่ง Mr.N เคลมว่ายี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อแรกที่ทำรองเท้าทรงนี้เลยนะเธอ














*credit: www.sperrytopsider.com

แบบนี้เลยที่คุณเธอซื้อมา
ตอนแรกก็บ่นๆนะ เพราะรองเท้าก็เยอะอยู่แล้ว
แต่พอเห็นของจริง เออ สวยแหะ ชักอยากได้บ้าง ฮ่าๆๆ
เพราะว่ามีแบบของผู้หญิงด้วยไง

ปกติรองเท้าทรงนี้ใส่แล้วมันจะดูเท้าสั้น ถ้าอยากให้ดูสมส่วนมันก็จะหลวมไปอีก
แต่ยี่ห้อนี้ลองแล้วโอเคเลย














*credit: www.sperrytopsider.com

ดูลิเกไปมะ ฮ่าๆๆ
แต่ของจริงใส่แล้วชอบเลย แต่ราคาแรงไปหน่อย ตั้งเกือบ 4 พัน (อ๊ากกกซ์)
ไว้โบนัสออกค่อยว่ากันอีกที