Mar 29, 2014

HK TRIP2014 - Rainblow Seafood Restaurant

Rainblow Seafood Restaurant

ร้านอาหารบนเกาะ Lamma 
รายละเอียด http://www.rainbowrest.com.hk/eng/index.asp
จองทาง website แล้วจะมี e-mail มา confirm อีกที
ไปรอที่ pier ตามที่บอก จะมีคนจากร้านมายืนรอรับ









Mar 23, 2014

HK TRIP2014 - Tim Ho Wan

Tim Ho Wan สาขา Olympian City
Address: Shop 72, G/F, Olympian City 2
18 Hoi Ting Road, Tai Kok, Tsui
Open Hour : 10:00 - 21:00 everyday

Baked Bun with BBQ Pork


Vermicelli Roll with Shrimp

Glutinous Rice

Pan Fried Carrot Cake

Prawn Dumpling

Beancurd Skin Roll with Pork & Shrimp

Pork Dumpling with Shrimp

Beef Ball with Beancurd Skin

Dumpling Teochew Style

Jan 12, 2014

JAPAN2013 - 11th day // The beautiful Kawaguchiko

**15/04/2013**

วันนี้ตื่นเช้าหน่อย เพราะจะไป Kawaguchiko กัน
ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อนจะ Check out ออกมา


ไม่ได้กินอะไรรองท้อง มาถึงสถานีเจอตู้นี้ คุณผู้ชายกดมาซัดเลย
ตอนแรกไม่คิดว่ามันจะร้อน(ถึงมันจะเขียนว่า Hot Meal ก็เหอะ)
แต่ออกมาควันฉุยเลย ร้อนมาก ฮ่าๆๆๆ



ไม่ได้ขึ้นรถไฟอันนี้นะ ได้ขึ้นขากลับแทน
ระหว่างทางไปก็เห็นภูเขาไฟฟูจิด้วย ตื่นเต้นมากกก
พอได้มาเห็นของจริงแล้วมันรู้สึกอลังการบอกไม่ถูก





ถึงแล้วซื้อตั๋ว ขึ้นเมโทรบัส ไป check in โรงแรม (The New Century Hotel)
วิวจากหน้าโรงแรมก็สวยสุดๆแล้ว
ดีใจที่ที่นี่ยังมีซากุระให้ดูอยู่ (ในเมืองร่วมเกือบหมดแล้ว)



ระหว่างรอเวลาเข้าห้องพัก ก็จัดเลย ตามที่เค้า review กันบ่อยๆ
จุดฮิตๆทั้งหลายแหล่ แล้วก็แวะกินอุด้งเส้นแบนขึ้นชื่อของที่นี่ด้วย






















หมดจุดสุดท้าย ก็กลับมาโรงแรม ได้เข้าห้องละ
ที่นี่เค้าเคลมว่าทุกห้องเห็นวิวฟูจิหมด จริงมั๊ยไม่รู้นะ แต่ห้องเราก็เห็นนะ
ดูจากมุมแล้ว ห้องเราอยู่ริมสุดแล้วยังเห็น ทุกห้องก็ต้องเห็นแหละ
สำรวจห้องเสร็จก็รีบจัดแจงเปลี่ยนชุด ไปแช่ออนเซ็นกันเลย
(คุณผู้ชายบอก รีบไปตอนนี้ น่าจะยังไม่มีคน)
ประสบการณ์แช๋ออนเซ็นครั้งแรกผ่านไปด้วยดี(พร้อมกับครอบครัวชาวจีน)
สบายตัวมวาาาากกกกกกกกกกก
กลับมาจิบชากินหนมชิลๆ เกือบจะได้งีบละ ถึงเวลาอาหารเย็นซะก่อน
ตอน check in เค้าจะถามว่าจะเลือกอันไหน ระหว่างสุกี้ กะ ชาบู
เราก็คุณผู้ชายก็เลือกคนละแบบ จะได้ลองกินทั้ง 2 แบบ
อาหารมาเป็นจานเล็กๆน้อยๆ แต่ก็อิ่มเอาเรื่องอยู่นะ














จบมื้อเย็น กลับมาเห็นที่นอน แทบล้มเลย ง่วงฝุดๆ












Jan 9, 2014

JAPAN2013 - 10th day // The day in Tokyo and meet the long lost friends

**14/04/2013**

ตื่นมาแต่เช้าเพราะโปรแกรมวันนี้ของเราคือ ตลาดปลาซิคิจิ
แต่... ไม่ได้จะไปดูเค้าซื้อขายปลาแต่อย่างใด นั่นมันต้องไปตั้งแต่ตี 5
ทริป 20,000 cals ของเรา คงไม่ต้องการไปดูเค้าขายปลาหรอก ฮ่าๆๆๆ
(ชื่อ trip นี้ได้เพราะโพสรูปของกินลง fb บ่อยมาก จนเพื่อนตั้งให้)

ร้านที่เลือก ก็เลือกจาก review ใน pantip ซึ่งมารู้ทีหลังว่าเป็นร้านสาขามาจากเซนได
(ก็เนื่องมาจากโพสรูปใน fb แล้วบังเอิ๊ญญ มีรุ่นน้องทำงานที่ Nikon ที่เซนได มา comment บอก
แถมยังแนะนำให้ลองซูชิเนื้อม้าอีกด้วย)
ร้านก็น่าจะดังอยู่นะ แต่จำชื่อและ location ไม่ได้หรอก (แป่ววว)
แถม review นั่นก็หายไปไหนแล้วไม่รุ๊ (- -)
แต่ sushi เค้าเมพจริงๆ (ภาษาวิบัติตะล๊อดดด) ซัดกันไม่ยั้ง 2 คนหมดไปเกือบ 3 พันบาทได้
เทียบกับการกิน sushi ที่กรุงเทพแล้ว ราคานี้ถูกไปเลย









ฟาด Sushi เสร็จแล้ว คุณผู้ชายก็ออกตามหาตรอกไข่หวานต่อเลย
เดินๆๆตามไกด์บุ๊คไปซักพักก็เจอ อิฉันตื่นเต้นมากกกกกกกกกก
เพราะมันอุดมไปด้วยไข่หวาน เหลืองงงไปทั้งตรอกเลย




กินเสร็จ ฟินทุกเมนู แล้ว ก็ถึงเวลาเดินย่อย
มุ่งสู่สถานที่ท่องเที่ยวที่เหมือนเป็น Landmark ของคนที่มาเที่ยวโตเกียว
วัดอาซาคุซะนั่นเองงงงงงงง
แล้วบังเอิญว่าวันนี้มันวันเสาร์ คนเยอะไปไหน นี่แถบจะไหล่ไปเลย ไม่ต้องเดิน







ตาม Step ต้องต่อด้วยตึกอุนจิ เอ๊ย ฟองเบียร์ อาซาฮี
แล้วตามด้วย Tokyo Tower






ถึงตรงนี้ก็ได้เวลากลับไปที่ Shinjuku Station เพื่อไปเจอฮารุกะและโคเฮ
เพื่อนสมัยเรียนภาษาที่ออสเตรเลีย
ถึงตอนนั้นจะเรียนด้วยกันแค่ 3 เดือน (โคเฮก็แค่เดือนกว่าๆเท่านั้น)
แต่มิตรภาพก็ยังไม่ขาดหายไปไหน ฮารุกะก็มาเที่ยวกรุงเทพทีนึง
ส่วนโคเฮเรียกว่าสมัยใหม่ๆนี่เกือบทุกปี (เพราะฮีมีแฟนเป็นคนไทย รุ่นพี่ดิฉันเอง)
แต่หลังๆนี่ก็ไม่ได้มากันละ เราเลยต้องมาเอง (เอ่อ..มันใช่มั๊ยฮะ)



เม้าท์ๆเรื่องที่ทำงานกันเล็กน้อย ฮารุกะทำอยู่แบงค์มิตซูบิชิ (ไอ่บริษัทนี่มันเจ้าของประเทศรึป่าวเนี่ย!!)
แอบบ่นว่าตัวเองก็ไปเรียนภาษามาแค่ปีเดียว ซึ่งมันก็นานมาแล้วนะ
แต่ทำไมทุกคนต้องคาดหวังว่าเธอจะต้องพูดภาษาอังกฤษเก่งด้วยหึ๊
ส่งเธอไปทำงานพูดคุยกับคนต่างชาติ เธอก็ได้แต่ยิ้มๆ yes no ok ก็เท่านั้น!!!
ฮ่าๆๆ อันนี้ขำๆ ส่วนตัวเราก็เก็บภาษาเข้าหีบไปบ้างละ ก็แหงอ่ะ ไม่ได้พูดทุกวันหนิ

กินๆเม้าท์ๆแล้วฮารุกะก็พาไปชมวิวบนตึก...เอ่อ...นั่นแหละ แหะๆ
บอกกงๆเลยว่าตามแพลนคือ มาเจอแล้ว แล้วก็จบ หวังพึ่งเพื่อน พาไปไหนชั้นก็ไปหมด
ก็เลยเดิมจ่ำตามอย่างเดียวเอง จ่ำจริงๆเพราะเค้าเดินกันเร็วมาก
ระหว่างเดินไป ฮารุกะก็อาโนๆ update ชีวิตกับโคเฮไป (คือถ้าเราไม่มา สองคนนี้ก็คงไม่ได้มาเจอกัน)
เสร็จปุ๊บ ชีก็ทานสเลท(แหวะ) ม่ายๆ translate มาเม้าท์ให้เราฟังต่อ ตามประสาชะนี
คือจริงๆโคเฮเล่าเองก็ได้นะ แต่มันคงไม่ได้อรรถรสเท่าชะนีคุยกันค่ะ!!! 5555






จากนั้นก็แยกย้ายกันไปตามประสาคนมีธุระ ฮากุระถามว่าจะไปไหนกันต่อ
คุณผู้ชายก็ตอบทันทีว่า จะไป Shimokitazawa
โคเฮขมวดคิ้วทันที ถามว่าที่นั่นมันมีอัลไล!!!???
ฮารุกะถึงกะอึ้ง ตอบไปว่า มันก้อมีอะไรตั้งเยอะนะ ชั้นไปบ่อยยยยย
ต้องเข้าใจนิดนึงนะว่าฮารุกะสมัยเรียนที่แต่งตัวแนวมาก คงไม่แปลกถ้าจะมาที่นี่บ่อย
แต่โคเฮเป็นประเภทแบรนด์แนมตัวจรดเท้า เนี๊ยบมาก
ฮีเลยม่ายยยเข้าาาจายยยวายยยรุ่นนนนนนอย่างงงเราาาาาา

แยกกะโคเฮที่ Shinjuku แล้วก็ขึ้นรถไฟมาพร้อมกะฮารุกะเพราะเป็นทางกลับบ้านเธอ



แวะช็อปนิดหน่อย เพราะเจอร้านขายของที่นี่ ขาย Perfect Whip หลอดใหญ่ถูกมาก
ตอนกำลังจะกลับ ฮารุกะ Line มาแนะนำว่าให้ลองมานั่งรถเที่ยวรอบเมืองดู




สนุกมั๊ย ก็สนุกดี ก็วนๆให้เห็นว่าแต่ละที่มีอะไรบ้าง แต่มันไม่ดีตรงคนบรรยายภาษาจีนฮะ
เล่นมุขหัวเราะอะไรกัน อิฉันไม่ขำซักแอะ เพราะฟังไม่ออก (= =)

เดินเที่ยวถ่ายรูปแถวๆ Tokyo Station แล้วก็กลับมากิน Sushi หน้าอลังกันต่อ แถว Ueno
แล้วก็กลับห้องนอนหลับฟินไป พรุ่งนี้จะไปหาฟูจิซังกัน