Mar 5, 2017

JAPAN MAR2017 // Gerooooo Geroooo

วันนี้เราจะย้ายที่นอน มุ่งหน้าสู่ Gero กัน

ตื่นเช้ามาย้ายของลงกระเป๋าเล็กที่เพิ่งซื้อมาเมื่อวาน
(กระเป๋าล้อลาก Cabin Size ของมูจิ ใช้ดีมวากกกกก)
แล้วก็ลากกระเป๋าใหญ่ลงมา Check out พร้อมกับใบส่งกระเป๋าแมวดำ ที่ขอเค้ามามะวาน
เรากำหนดไว้ว่าให้ส่งกระเป๋าไปถึงโรงแรมที่ Osaka วันที่ 8 ตอนประมาณเที่ยง
วิธีการกรอกมีตาม pantip เต็มเลย ลอง Search ดู ง่ายมากๆ
แต่เอาจริงๆ ขอให้พนักงานช่วยกรอกก็ได้ ถ้าไม่มั่นใจว่าจะกรอกถูก

Check out เสร็จก็เดินตัวปลิวไป Nagoya Station กัน
บ๊ายบาย Nagoya ตรงนี้ มีเวลาแค่วันเดียวเอง รู้สึกน้อยมากๆ
ถ้ามีโอกาศจะกลับมาเที่ยวใหม่ ให้เวลาหลายๆวันเลย



ข้าวกล่องที่แวะซื้อที่สถานี
เรากับคุณผู้ชายไม่ได้นั่งติดกัน แต่ก็ไม่มีปัญหา เพราะใช้เวลาเดินทางไม่นาน



ผ่านไป 1.30 ชั่วโมง ก็มาถึง Gero
เราจองเรียวกังไว้ ชื่อว่า Yunoshimakan ซึ่งจะมีรถรับส่งสถานี เริ่มตั้งแต่ช่วงบ่าย
แต่ว่าเรียวกัง Check in ได้ตอนบ่ายสามแน่ะ ฉะนั้น เราก็ไปเดินเล่นกันก่อน



สถานีไม่ใหญ่มาก มีคนเยอะเป็นช่วงๆ (ตอนที่มีรถไฟมาจอด)



เมืองเกโระ เมืองแห่งออนเซ็น





อากาศดีอ่ะ สดชื่นมากๆ

ก่อนที่เราจะเดินเล่นอย่างเต็มที่ เราต้องหาอะไรรองท้องก่อน
ที่ Gero มีร้านนึงซึ่งคะแนนสูงมากใน Tabelog เป็นร้าน โซบะ ชื่อว่า Nakasa



ได้คะแนน 4.08 นี่ก็ถือว่าไม่ธรรมดา ดังนั้น เราต้องรีบมาก่อนเวลาร้านเปิด



มาถึงก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง มีคิวแล้วอ่ะ แต่ไม่เป็นไร เพราะไม่ยาวมาก
ยืนรอผ่านไปซัก 15 นาที เริ่มมีคนทยอยขับรถมา เดินมา สุดท้าย คิวยาวมากกกกก
รู้สึกโชคดีมากๆที่ตัดสินใจมายืนต่อคิวรอก่อน (แถวซื้อสตรอเบอรี่มายืนกินรอ อิอิ)
พอ 11:30 ถึงเวลาร้านเปิด ให้เข้าไป lot แรกเลย เย้ๆๆๆ





ที่นี่ไม่มีเมนูภาษาอังกฤษ เพิ่งรู้ตอนมาถึงร้าน ฮ่าๆๆๆ
แต่เราอ่านออกเล็กน้อย (ให้คุ้มกะที่เรียนมาหลายคอร์สหน่อย)
บวกกับ เปิดรูปอาหารจาก Tabelog ให้เค้าดู ว่าจะสั่งอันนี้ๆๆ
พนักงานพอรู้ว่าเราไม่ใช่คนญี่ปุ่น ก็หายไปแป๊บนึง แล้วกลับมาพร้อมมือถือ
กดๆๆๆซักพัก ยื่นให้เราดู เค้าแปลญี่ปุ่นเป็นอังกฤษให้ อธิบายคำว่า วาซาบิ น่ารักอ่ะ ฮ่าๆ

อาหารเด่นและอาหารหลักของร้านนี้คือเส้นโซบะ
เส้นโซบะที่นี่จะมีเอกลักษณ์ตรงที่จะยังมีเม็ดโซบะกรุบๆอยู่ในเส้น

ได้เวลาสั่งอาหาร คุณผช สั่ง Set โซบะที่มีข้าว
ส่วนเราสั่ง เทมปุระโซบะ
แล้วก็สั่ง "ก้อนโซบะ" มาอีกที่นึง (เห็นว่า Tabelog แนะนำกันหลายคน)



ในเซ็ทของคุณผช เต้าหูเหนียวนุ่มอร่อยมากๆ



อันนี้คือก้อนโซบะที่บอก ด้านบนแปะด้วยวาซาชิที่พนักงานพยายามอธิบายเป็นภาษาอังกฤษ



วิธีกินก็ตักแบ่งใส่ถ้วน เทโชยุลงไป แล้วก็ลุยเลย อร่อยแบบแปลกๆดี
คนชอบกินแป้งน่าจะชอบ ออกแนวๆโมจิสากๆ





อันนี้เซ็ทของเราเอง เทมปุระเฉยๆ ไม่ได้รู้สึกพิเศษมาก
ส่วนโซบะก็อร่อยดี อร่อยแบบแปลกๆ คือไม่ใช่โซบะเลิฟเว่อร์ เลยไม่รู้ว่าอร่อยจริงๆคือแบบไหน

หลักจากกินเสร็จ (ใช้เวลารออาหารนานเหมือนกันนะ)
ก็ถึงเวลาเดินเล่นจริงๆละ แหะๆ


ถ่ายรูปกับป้ายซะหน่อย จริงๆจะมีคุณลุงคนนึงที่เหมือนเป็นอาสาสมัคร คอยถ่ายรูปให้
แต่เราเกรงใจ แอบดูซักพัก พอคุณลุงไปถึงเดินมาถ่ายกันเอง



นั่งกินขนมเล่นหน้า Family Mart ที่เมืองนี่มีวัยรุ่นมาเที่ยวเยอะเหมือนกัน
Family Mart ตรงนี้เหมือน landmark เลย วัยุรุ่นมานั่งมายืน จับกลุ่มกันเต็มไปหมด

แต่จริงๆคือ ตรงนี้มียิมจ่ะ ฮ่าๆๆๆ มาตียิมกันนี่เอง



เดินผ่านไปเจอร้านที่ขายพุดดิ้งร้อน น่าสนใจเน๊อะ
อาการหนาวๆ พุดดิ้งร้อนๆ โคตรฟิน จริงๆมีที่ให้นั่งแช่เท้าในออนเซ็นด้วย
แต่คนนั่งกันเต็มเลยอด แต่แค่ได้นั่งกินเฉยๆก็ฟินมากๆแล้ว



ออกจากร้านพุดดิ้งก็เจอของดีเลยข้า เนื้อฮิดะเสียบไม้ย่าง กรี๊ดๆๆๆ



สั่งแบบโรยเกลือกับราดซอสมาอย่างละ 1 ลองแบ่งกันกิน ปรากฏว่าอร่อยมากกกกกก
อร่อยมากจริงๆ แบบ เหมือนจะลอยได้ ใครมาเที่ยวที่นี่ขอให้แวะลอง



กินจนเหนื่อยแล้วเดินเล่นต่อ





บนถนนมีรูปกบด้วย เคยอ่านมาไม่รู้จริงป่าวนะ ที่เมืองนี่ชื่อว่า Gero ก็มาจากเสียงกบร้องเกโระๆๆ





เดินเล่นวนๆอยู่ในเมือง เจอร้านขายเนื้อฮิดะย่างอีกร้าน แต่ไม่อร่อยเท่าร้านแรก



เจอฝรั่งเมา ยืนเล่นๆ แถมลงไปเดินในแม่น้ำ หวาดเสียวจะล้ม



เดินเมื่อยจนจะถึงเวลาที่ควรจะไป Check in ละ เลยเดินกลับไปรอ Shuttle bus ที่สถานี



จากสถานีใช้เวลาไม่นาน ก็มาถึงเรียวกัง พนักงานที่นี่พูดภาษาอังกฤษได้ดีทั้งสาวและสูงวัย
มาถึงเค้าก็ให้ ผญ เลือกชุดที่จะใส่ในเรียวกัง มีหลายดอกไม้หลากหลายสีมากๆ
แล้วจากนั้นก็จะพามาที่ห้อง เราจองห้องไปแบบแพงประมาณนึง เพราะอยากได้ออนเซ็นส่วนตัวในห้อง



ห้องใหญ่ใช้ได้เลย อยู่ในโซนตึกเก่า เดินไกลนึดนึง แต่เป็นส่วนตัวมากๆ



เห็นเก่าๆแบบนี้แต่ห้องน้ำทันสมัย ฝาชักโครกเป็นแบบอัตโนมัตินาจา





นี่แหละที่ต้องการ ออนเซ็นส่วนตัว จะแช่เมื่อไหร่ก็ได้ ตรงหน้าต่างสามารถเปิดชมวิวได้
แล้วก็มีต้นไม้บังๆ คนข้างล่างมองขึ้นมาไม่เห็นแน่นอน (แต่ข้างล่างเป็นที่จอดรถ ไม่ค่อยมีคน)



คุณป้าพนักงานที่พาเรามาส่ง ก็อธิบายนู้นนี้ในเรียวกังให้ฟัง
แล้วก็ถามว่าจะกินมื้อเย็นกี่โมง พร้อมกับเอาขนมกับชาเขียวมาเสิร์ฟ
เราก็ชิวๆกันแป๊บนึงในห้อง แล้วก็เปลี่ยนชุดไปเดินเล่นในเรียวกังกัน



หน้าห้องพัก



แผนที่เรียวกัง น่ารักดีเน๊อะ



เรียวกังที่นี่เปิดมานานมาก แล้วก็ค่อนข้างมีชื่อเสียง เคยมีสมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นเสด็จมาพักด้วย

เราเดินไปแอบดูออนเซ็นมา มีแบบ indoor กับ outdoor  แต่ละสลับเวลาระหว่าง ญ กับ ช
ตอนนั้น outdoor เป็นเวลาของ ช เราก็เลยไม่ได้เข้าไปดู แต่คุณผช บอกว่าสวยมาก เด๋วจะลอง



กลับมาที่ห้อง แล้วก็พุ่งไปแช่ออนเซ็นให้ห้องเลย ฮ่าๆๆๆ
ออกมาสดชื่นมากๆ กินสตรอเบอรี่กับนม ฟินมากกกกกกกกก



วิวจากห้องพัก ฤดูนี้อาจจะไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ เราเคยเห็นรูปตอนใบไม้แดง สวยมากกกกก

ชิวจนหกโมง พนักงานก็เริ่มเอาอาหารเย็นมาเสิร์ฟ



เนื้อฮิดะ ละลายในปาก





อันนี้คุณป้าบอกว่าเป็นซูชิย่าง ไม่เคยกินเหมือนกัน



มีหอยเป๋าฮื้อด้วย





ตบท้ายด้วยของหวาน

หลังจากอิ่มจนไม่รู้จะอิ่มยังไงละ พนักงานก็มาปูที่นอนให้ เมพมากกก เร็วมาก ปุ๊บปั๊บเสร็จเลย
พอเห็นที่นอนเท่านั้นแหละ ล้มเลยจ่ะ ฮ่าๆๆๆ


เป็นวันที่เรียกได้ว่าพักผ่อนอย่างแท้จริงๆ มีความสุขจังงงงง

No comments:

Post a Comment