Sep 17, 2017

Tokyo Trip SEP2017 - Shopping in Raining Day

ตื่นเช้ามาดูพยากรณ์อากาศ วันนี้ดูจะมีฝน (T__T)
แพลนวันนี้ก็เลยว่ากันตามสภาพอากาศคือ ไปตามมีตามเกิด





อยู่กัน 4 คน แต่มีห้องน้ำแค่ห้องเดียว เพราะฉะนั้น คุณผู้ชายเลยตื่นก่อนคนแรก (รายนี้ตื่นเช้าเป็นประจำอยู่แล้ว)
แล้วก็จัดการปลุกให้เราไปอาบน้ำแต่งตัวเป็นคนที่ 2
ระหว่างรอ 3-4 อาบน้ำแต่งตัว เราก็ซัดข้าวเช้าก่อน



ชอบชานมของ KIRIN มา มาทีไรก็กินทุกที

หลังจากทุกคนพร้อม เราก็ออกลุยกัน โดยการแวะซื้อร่มก่อน เพราะพอออกมาไม่นาน ฝนก็เทเลยจ้า
เดินจากที่พักไป Akihabara Station ใกล้ๆ ซึ่งระหว่างที่เดินนี่ก็ผ่านร้านราเมงที่กลิ่นหอมลอยออกมาจากร้าน
ในที่สุด... ก็อดไม่ได้ เนื่องจากอีก 2 คนยังไม่ได้กินข้าวเช้า เราก็เลยซัดอีกรอบ ฮ่าๆๆๆๆ



ราเมงเกลือ อร่อยใช้ได้เลย



ออกมาถ่ายหน้าร้านหลังกินเสร็จ เป็นร้านเล็กๆ ที่มีแต่เคาท์เตอร์
ชั้น 1 มี 7 ที่นั่ง ชั้น 2 มี 8 ที่นั่ง ใครผ่านมาแถวนี้แนะนำเลย



หลังจากกินเสร็จแล้วฝนก็ยังตกอย่างต่อเนื่อง (เพราะพายุเข้า)
เราก็เลยตกลงกันว่าวันนี้เป็นวัน Shopping ละกัน ง่ายๆอย่างนี้เลย ฮ่าๆๆๆ
เราก็เลยมุ่งหน้าไป Pokemon Center กัน ที่ Ikebukuro อยู่ตรงตึก Sunshine



จุดนี้ไม่มีรูปละ เพราะอย่างคนต่างก็เดินดูของจนหนำใจ
จริงๆในตึก Sunshine มีที่เที่ยวอีกเยอะ แต่เพราะว่าเป็นวัน ส อา ที่ฝนตก
เพราะฉะนั้น คนในตึกจะเยอะมวากกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เด็กเยอะมวากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เล่นเอาพวกเราเมาทั้งคนเมาทั้งเด็ก สุดท้ายก็เลยไม่ได้แวะอะไรเลย
เดินออกมาจากตึกเสร็จ ก็มีคนเสนอว่าไปคาเฟ่แมวกัน (ไอเดียดี)
แถว Ikebukuro มีคาเฟ่แมวหลายร้าน เราก็เลือกเอาที่ใกล้ๆแล้วก็ไปกันเลย



ชื่อ Nekorobi ค่าเข้า 30 นาที 900 เยน หรือ 1 ชั่วโมง 1,300 เยน
ข้างในก็สามารถเล่นกับแมวได้เต็มที่ แล้วก็มีเครื่องดื่มให้กินไม่อั้น
ตอนแรกก็ว่าน่าจะสนุก เพราะดูแมวก็เยอะดี แต่ปรากฏว่า แมวหยิ่งมากกกกกกกกกกกกก
ไม่สนใจใดๆในโลกนี้เลย นอกจากอาหาร ซึ่งอาหารนี่ต้องเสียตังค์ซื้อเพิ่มนะ
โยนของเล่นไปให้ก็ไม่สนใจ เรียกก็ไม่มา เมินหน้าหนี
แต่โชคดีว่า Staff ค่อนข้างโปร ถ้าเห็นใครเอากล้องจ่อแมว เค้าจะไปยืนข้างหลังแล้วเอาอาหารล่อ
เพื่อให้มองแมวมาทางกล้อง อันนี้ขอชื่นชม





เค้ากำลังจัดธีมฮาโลวีนพอดี เลยได้เห็นแมวคอสเพลย์



อันนี้เป็นแมวตาเหล่ซึ่งเราตกใจมาก ไม่เคยเห็นมาก่อน ตอนเห็นก็สงสารนะ
แต่พอถ่ายรูปแล้วเอามาดูนี่คือขำ เหมือนมันทำหน้าตลกใส่กล้อง
แล้วขนนี่ก็สวยมากกกกกก เหมือนสิงโตเลย นุ่มมาก



กำลังจะถ่ายป้ายชื่อน้องแมว เจ้านี่กระโดดเข้ามาเป็นพร็อพให้ด้วย ดีมาก!

เสร็จจากคาเฟ่แมว ตั้งใจว่าจะไป Tokyu Hand ต่อ เพราะตอนนี้ฝนยังคงตกไม่หยุด
แต่ระหว่างทางเราก็แวะหาอะไรกินกันก่อน


Bankara Ramen ที่หากินได้ที่ไทย แต่เมนูนี้ไม่มีที่ไทยน่ะสิ
เป็นราเมงเส้นหน้า โปะด้วยเนื้อแบบ rare อร่อยมวากกกกกกกกก



หลังจากนั้นก็ไปที่ Tokyu Hand สาขาตรง Ikebukuro กันต่อ สมเป็นวัน Shopping จริงๆ
แล้วจากนั้น ก็นั่งรถไฟมาที่ Shibuya เพื่อมาตามรอย Persona5 กันนิดนึง
ได้ถ่ายรูปคนเดินข้ามถนนด้วย แต่เพราะว่าฝนตก ก็เลยกลายเป็นร่มข้ามถนนเอง ก็สวยไปอีกแบบ



ขากลับ แวะซุปเปอร์แถวที่พัก ได้ปลาดิบลดราคามา (ฟินนนนน)
ก็ผู้ชายซื้อเนื้อมาทอด อร่อยมวากกกกกก



ตามด้วยของหวานเป็นลูกพีช ทุกทีมาทีไรก็กินแต่สตรอเบอรี่
แต่หน้าร้อนนี้ไม่มีขายเลย คือถ้าแพงหน่อยก็ยอมซื้อนะ แต่มันไม่มีขายจริงๆ
กินลูกพีชแก้ขัด ก็อร่อยไปอีกแบบ (ดู The Face Men Thailand ไปด้วย อิอิ)



ตบท้ายมื้อด้วยนมช็อคโกแลตของ Godiva จะได้นอนหลับฝันดี

Sep 16, 2017

Tokyo Trip SEP2017 - Again and Again

เวลาผ่านไปยังไม่ทันครึ่งปี ทริปญี่ปุ่นก็มาอีกแล้ว
คราวนี้เป็น Tokyo หน้าร้อนแบบกระทันหัน เนื่องจากมีน้องย้ายบริษัทแล้วมี gap ว่างประมาณครึ่งเดือน
ก็เลยหาที่เที่ยวกันระหว่างรอเริ่มงานใหม่ และก็แน่นอนว่าต้องเป็นญี่ปุ่น

ระหว่างหาตั๋วเครื่องบิน ก็มีโปรจาก expedia บิน JAL + ที่พัก 1 คืน
ราคาประมาณ 16k ต่อคน ซึ่งถือว่าก็ถูกสำหรับบินตรง
แต่พอหาไปหามา เจอว่ามี HK Airlines อีกเจ้า Transit ที่ HK ไม่นาน ประมาณชั่วโมงกว่า
ราคาแค่ 11k ต่อคน ต่างกันเกือบ 6 พัน สุดท้ายก็เลยตัดสินใจบินกับ HK Airlines (ซื้อผ่าน Expedia)
แต่มีข้อเสียแค่อย่างเดียวคนได้กระเป๋าคนละ 20 กก. เท่านั้น ซึ่งเอาจริงๆก็พอนะ ถ้า shop ไม่เยอะ หุหุ


ขามามีลุ้นนิดหน่อย เพราะขา กรุงเทพ - ฮ่องกง ดีเลย์ไปชั่วโมงกว่า
พอมาถึง HK ก็เป็นเวลา boarding ของ ฮ่องกง - โตเกียว พอดี ลุ้นมากกว่าเค้าจะรอมั๊ย
ซึ่งพอมาถึงก็ตามคาด มีพนักงานมายืนรอและพาเดินไปขึ้นเครื่องต่อ ซึ่งเดินเร็วมวากกกกกกกก
จ้ำอย่างเดียวจริงๆ สแกนกระเป๋านั่นนี่แล้วก็พามาต่อแถวขึ้นเครื่อง คือโคตรเหนื่อย แต่ดีที่ยังทัน
ขา ฮ่องกง - โตเกียว ก็มาถึงก่อนเวลานิดหน่อย


หลังจากนั้นก็รับกระเป๋า ผ่าน ตม. ซึ่งไม่ได้ยาก แล้วก็เดินทางไปที่พักกัน
เรานั่ง Keisei Skyline แบบด่วน ไปลง Nippori แล้วต่อ JR ไปลง Asakusabashi สถานีที่ใกล้ที่พักที่สุด
ที่พักรอบนี้เราจอง AIRBNB (ได้ข่าวว่าที่ญี่ปุ่นถูกกฏหมายแล้ว) หาอยู่พักนึงจนได้ห้องที่ถูกใจ
ก็คือ มีครัว มีห้องนั่งเล่น มี 2 ห้องนอน ห้องน้ำมีที่ฉีด แล้วก็อยู่ไม่ไกลสถานี
ราคาคืนละประมาณ 4000 บาท อยู่ 4 คนก็ถือว่าโอเค จริงๆห้องกว้างมาก นอน 6-8 คนได้เลย แต่ห้องน้ำห้องเดียวอาจจะลำบากหน่อย


ห้องนั่งเล่นมีโซฟาใหญ่นั่งสบายมาก โซฟาสีเนื้อนั้นกางออกมาเป็นที่นอนได้
ส่วนห้องทางซ้ายเป็นห้องนอน ห้องทางขวาเป็นห้องตากเสื้อ
ด้านหลังทีวีจริงๆเป็นระเบียงสามารถเปิดออกไปได้



ห้องนอนห้องนี้ไม่มีแอร์ในห้อง แต่แอร์จากห้องนั่งเล่นสามารถปรับให้เป่าลมเข้าไปได้


ห้องนี้จริงๆนอนได้ 4 คน แต่เรานอน 2 คน สบายมาก



มุมห้องคร้ว ครบมาก ทั้งไมโครเวฟ เตาแก๊ส เตาอบ หม้อหุงข้าว กาต้มน้ำ มีเครื่องดูดควัน
แถมที่นี่มีซุปเปอร์ใกล้ๆ บางมื้อก็ซื้อเนื้อมาย่างกิน


ห้องน้ำมีแบ่งโซนเป็นห้องอาบน้ำกับห้องส้วม ในนี้มีเครื่องซักผ้าแอบไว้ให้ด้วย

-------

หลังจากเก็บของอะไรเรียบร้อย ก็นั่งรถไฟจาก Asakusabashi (Metro) ไปลง Asakusa (Metro)
ประเดิมมื้อแรกด้วย Ichiran Ramen ซึ่งสาขานี้มีทั้งเป็นโต๊ะนั่งธรรมดา และคอกนั่งคนเดียว


อิ่มอร่อย กลับมาหลับฝันดี