Apr 28, 2015

JAPAN 2015 // Day 1 - First Time SNOW

#07.02.2015

เราบินกันไฟลท์ดึก ออกจากดอนเมือง 11:45PM ถึงนาริตะ 08:00AM
รอบนี้ก็เลยไม่ได้สั่งข้าวเอาไว้ กะนอนยาว
แต่เอาจริงๆก็ไม่ค่อยหลับหรอก เพราะที่นั่งก็ค่อนข้างแคบ
ตอนใกล้ๆจะถึง ก็ตื่นมาชื่นชมฟูจิซังรอบนึง

ถึงนาริตะจริงๆ 07:00AM เร็วกว่ากำหนดการณ์ 1 ชั่วโมง
เนื่องจากช่วงฤดูนี้ มีลมส่งท้าย ทำให้ถึงเร็วขึ้น (กัปตันบอกมา)
ลงเครื่องได้ เราก็รีบจ้ำๆๆๆๆเดินตรงไปตม.เลย
ปรากกว่าตรง ตม. แถวยาวมากจ้า ยาวมากกกกก นี่ขนาดเช้าๆนะ
ขดกันเป็นงูไม่รู้กี่รอบ ยืนจนเมื่อยขา

พอถึงคิวเรา ก็ผ่าน ตม. ได้ปกติ ไม่ถงไม่ถามเรื่องสุขภาพกันซ๊ากคำ ฮ่าๆ
แพลนวันนี้ของเราคือ บินไปลง Sapporo ต่อ
(TAAX กับ Vanilla Air อยู่ที่ Terminal 2 เหมือนกัน)
ไฟลท์เรา ออกจากนาริตะ 12:50 ไปถึงซัปโปโร 14:35 
ออกจากตม.นี่คือยังไม่ 9 โมง มีเวลาเหลือเฟือ
เราก็ไปรับ pocket wifi มาก่อน เปิดเครื่องลองใช้ โอเคใช้ได้
แล้วก็ออกจาก Terminal 2 ขึ้น bus ไปลง Terminal 1
ไม่ใช่อะไร ร้านอาหารที่ดูไว้มันอยู่ Terminal 1 ฮ่าๆๆๆๆ

ข้อมูลจาก Tabelog












ตอนแรกก็ชิลๆนะ เดินกันมาเรื่อยๆเรียงๆ ปรากฏว่ามีคิวซะ คนเยอะเชียว
ร้านเล็กมาก ลากกระเป๋าเดินทางมาใหญ่ๆนี่คือรู้สึกผิดเลย
แต่พนักงานก็เก่งนะ สามารถจัดระเบียบทั้งคนมากิน ทั้งกระเป๋า ให้เข้าที่ได้




หาอะไรกินเสร็จแล้ว ก็เดินเล่น ไปดูตรงจุดชมเครื่องบิน
Observation Deck มีทั้ง 2 Terminal, Terminal 1 ชั้น 5, Terminal 2 ชั้น 4


อากาศโคตรหนาวเลย ตอนแรกใส่ Jacket Jean มาตัวเดียว เอาไม่อยู่
ต้องแงะกระเป๋าขุดเสื้อขนเป็ดมาใส่
ไม่อยากจะคิดว่าถ้าถึง Sapporo นี่มันจะหนาวขนาดไหน บรึ๋ย...

เดินเล่นสำรวจสนามบินกันอยู่พักนึง ได้เวลาสมควรเราก็กลับไป Terminal 2
Vanilla Air เค้าเปิด counter ให้ check-in 90 mins before departure คือเป๊ะมากนะ
เราไปถึงก่อนเวลาแป๊บนึง เค้าก็ปิดประตูไว้
เค้าจะเปิดเฉพาะเวลาจะให้ check-in ของแต่ละไฟลท์เท่านั้น ไม่ได้เปิดไว้ตลอด
(คือ counter เค้าอยู่ในซอก มีประตูบานเลื่อนปิดไว้ไม่ให้เห็นข้างใน)
พอใกล้ๆจะถึงเวลา พนักงานก็ทยอยๆมาเปิด มาจัดของ
90 นาทีเป๊ะ เริ่มคิวแรกได้ เป๊ะเว่อร์ 555555

จุดนี้ Check-in ได้ 2 ที่ คือ check ที่ counter หรือที่ตู้ kiosk 
เราเลือกที่ตู้ เพราะสะดวกดี ตู้ใช้ไม่ยาก ภาษาอังกฤษชัดเจน ขั้นตอนก็สั้นๆ
เนื่องจากขาไปเราซื้อแบบ packet hiso นิดนึง ก็เลือกที่นั่งมาล่วงหน้าแล้ว ไม่มีปัญหา
ปริ้น boarding pass จากตู้มาแล้ว ก็เดินไปจุด drop กระเป๋า แป๊บเดียวเสร็จ
เข้าไปนั่งรอขึ้นเครื่องสบายใจ จุดตรวจกระเป๋าอะไรก็อยู่ตรงนั้น เป็นสัดส่วนของเค้าเลย

  **ตอนนี้ทาง Vanilla Air ย้ายไปอยู่ Terminal 3 เรียบร้อยแล้ว
  **Conter น่าจะใหญ่โตอลังการขึ้นนะ ไม่น่าจะเล็กเหมือนลูกเมียน้อยแบบที่ Terminal 2


เข้าเขต Hokkaido แล้ว ตื่นเต้นมาก มองลงไปเหมือนมีน้ำตาลไอซิ่งโรยไปทั่ว
ถึงสนามบิน New Chitose แล้ว เราก็จัดการไปซื้อ Hokkaido Pass กะ Otaru welcome pass
ทีนี้กะว่า ก็เด๋วจะลองเลย รถไฟที่ต้องนั่ง ที่ต้องจอง หลักๆก็
Sapporo - Hakodate, Hakodate - New Chitose Airport
ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไร ก็รอต่อคิวไป ไปถึงคิวปุ๊บเท่านั้นแหละ อาเพศเลย
ทุกเส้นที่เราจะจอง เต็มหมด เหลือแต่แบบ un-reserved seat เท่านั้น
คือไปเสี่ยงดวงเอาเองว่าจะได้นั่งหรือยืน (T____T)
คือ shock มากอ่ะ จองล่วงหน้า 3 วันก็เต็ม ขากลับก็เต็ม ขนาดล่วงหน้า 5 วันนะ
เส้นทางนี้มันเต็มตลอดเวลาจริงๆ ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่เดินคอตกออกมา
ทีนี้ก็คุยกันว่าคงต้องลุ้นเอาแล้วล่ะ คือต้องรีบไปสถานีเพื่อไปดูว่าชานชลาอะไร
จะได้ไปต่อแถวรอแต่เนินๆ เพื่อที่จะมีที่นั่ง ก็โอเค ทำใจเผื่อไว้นิดนึง
เอาน่า อย่างมากก็ยืนแค่ 3 ชั่วโมงครึ่งเอง (T___T)


ส่วนตรง Otaru จองได้ ไม่มีปัญหา แต่เสียค่าจองเพิ่มอีกไม่กี่เยน
ขาไปได้ที่นั่งฝั่ง sea side ขากลับไม่เห็น ก็ไม่เป็นไร
เสร็จจาก pass ต่างๆ แล้วก็ออกมากดซื้อบัตรเติมเงิน Kitaca card
(จริงๆ Suica ก็ใช้ที่นี่ได้นะ แต่อยากซื้อ ฮ่าๆ)


จากนั้นก็มุ่งหน้าไปโรงแรมกันเลย เราไปลงที่ JR Sapporo
เนื่องจากโรงแรมมี free shuttle bus ระหว่างโรงแรมกับสถานี JR Sapporo
ตอนเดินออกจากสถานี JR คือจะได้ป๊ะกะหิมะเต็มๆเป็นครั้งแรก ตื่นเต้นมาก 5555


เอามือไปแตะๆจับๆ ปั้นๆ เหมือนน้ำแข็งไสเลย

ทีนี้ เดินไปถึงตรงที่จอดรถของโรงแรม ก็ไม่เห็นว่ามีของ Toyoko inn
คุณลุงของโรงแรมอื่นคงเห็นเราเงอะงะหันซ้ายหันขวา เลยเดินมาทำท่าจะเข้ามาช่วย
เราก็พุ่งเข้าไปถามเลยว่า Toyoko inn Susukino Minami รอตรงนี้รึป่าว
คุณลุงบอก ใช่แล้วๆ โคะโคะนิๆ (ที่นี่ๆ) เอานิ้วชี้ๆ แต่... รถเที่ยวแรกมาห้าโมงเย็นจ้า
ป๊าดดดดด นี่คือเห็นแล้วว่าเค้ามี time table ในเว็บ แต่คือคิดไปเองว่ามีทั้งวัน
เดินคอตกกลับมาในสถานี คือจริงๆก็ไปรถไฟใต้ดินเองได้นะ อีกประมาณ 2 สถานีเอง
แต่คุณผู้ชายขอเลือกเป็นฝากกระเป๋าแล้วไปเดินห้างกันดีกว่า อยากไปดู Uniqlo 555


ถือโอกาสกินราเมงประเดิมเลย บน ESTA มี Ramen Valley อยู่น่าลองหลายร้านมากๆ
แต่เราร้านเดียวก็จุกละ ชามใหญ่สุดๆ


ได้เวลาสมควรแล้ว ก็ออกไปรอรถ



ถึงโรงแรม จัดการ Check-in ยื่นบัตรสมาชิกให้เค้า ก็กรอกรายละเอียดตามขั้นตอน

บัตรสมาชิกเราก็จะใช้เป็น key card ด้วย (แล้วก็มีอีกอันให้มาด้วย)
ห้องก็เล็ก แต่ครบครัน ตาม Concept นะ เราว่าพักที่นี่ก็ดี
เพราะที่เครือได้มาตรฐานหมด ไม่ต้องไปลุ้นว่าจะดีเหมือนในรีวิวมั๊ย







เก็บของเสร็จ ก็ออกเที่ยวเลย เวลาไม่คอยท่านะ
วันนี้เราจะไปเดินที่ Site Susukino กัน เป็นจุดที่ทำน้ำแข็งแกะสลัก


ทักทายหิมะครั้งแรก อิอิ เดินไปก็ลื่นไป ใกล้ๆโรงแรมมี Family Mart


เราเลยแวะซื้อที่เกี่ยวรองเท้าที่เอาไว้เดินบนหิมะ อันนี้รองเท้าเราใส่ได้ (size 39)
แต่ของคุณผู้ชายใส่ไม่ได้ เกี่ยวไม่ถึง (size 42)

เดินแป๊บเดียวก็ถึง Susukino แล้ว ช่างแตกต่างกะแถวโรงแรมมาก
ทั้งๆที่ก็อยู่ห่างกันนิดเดียวเอง ย่านนี้คึกคักสุดๆๆ 





เดินกันจนทั่วแล้ว ก็ไปหาอะไรกินกัน คุณผู้ชายขอเลือกร้านปูที่เป็นแนวไฮโซนิดนึง แถวๆนั้น
ก็ตามนั้นฮะ ฟินกันไปตามระเบียบ



กินเสร็จ เดินกลับโรงแรมกัน นอกจากประหยัดแล้วยังช่วยย่อยด้วย ฮ่าๆๆๆ
แช่น้ำอุ่นที่โรงแรม ฟินอีกรอบ หัวถึงหมอน สลบเหมือนกันทั้งคู่เลยทีเดียว
จบวันแรกที่แสนจะหลากหลายรสชาติ :)

No comments:

Post a Comment